Draw your dream
รวิชญ์ เทิดวงส์




การวาดภาพระบายสี
เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้ความคิดที่ยังเป็นนามธรรมในสมองของเรา กลายเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมออกมา
able วันนี้มีโอกาสพูดคุยกับ
คุณปิ๊บ - รวิชญ์ เทิดวงส์

สุภาพบุรุษหนุ่มหล่อ มากความสามารถ ทั้้งนายแบบ นักแสดง อาจารย์ ที่วันนี้เขาจะมาเล่าถึงความหลงใหลที่มีต่อศิลปะการวา
ดภาพให้ฟัง



ศิลปะอย่างแรกที่รู้จัก


เริ่มตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยล่ะ เท่าที่จำได้คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมวาดภาพในหัวข้อวันลอยกระทง แล้วผมระบายให้น้ำเป็นสีแดง คุณครูมาดูก็ถามว่า ทำไมระบาย เป็นสีแดงล่ะ คือตอนนั้นไม่มีใครมาบอกว่าน้ำต้องเป็นสีฟ้า แต่ผมระบายไปตามที่ตัวเองนึำกภาพ พอมาเรียนที่ไทยวิจิตรศิลป์ก็สนุกที่ได้เจอโลกของตัวเอง จากตอนที่อยู่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเคยเรียนได้เกรดเฉลี่ย 1 กลับกลายมาเป็นเกรด 3 กว่าตลอดนะ (ฮา)

แต่ก่อนชอบงาน Commercial Art เพราะตอนนั้นเรายังไม่รู้จัก Fine Art หรือศิลปะเพื่อศิลปะ พอได้เรียนที่นิวซีเเลนด์ แล้วก็ได้ไปรู้จัก Fine Art ที่นั่น ก็ประทับใจ พอดีช่วงนั้นเริ่มสนใจเรื่องศาสนา ปรัชญา คำสอนต่างๆ ก็เลยเริ่มอยากถ่ายทอดออกมาใหเ้ป็นผลงานศิลปะ

ผลงานที่ประทับใจ

ผมประทับใจงานแสดงผลงานครั้งแรกของผม เพราะเป็นการทำความฝันให้เป็นจริง แล้วก็เป็นการแสดงผลงานแบบเดี่ยวด้วย เพื่อนคนอื่นที่เคยมีความฝันเหมือนกันก็ผันตัวไปทำงานอย่างอื่นแล้ว แต่ผมสามารถทำมันได้สำเร็จ เป็นงานที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องใช้เทคนิคมากมายเหมือนศิลปินระดับโลก แต่็ก็สามารถขายผลงานได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนหลังผมก็กล้าขึ้น เพราะคนจะเริ่มรู้จักในฐานะนัก
แสดงแล้ว

อย่างตัว Mascot ของอุโมงค์ดูปลาที่ Under Water World พัทยา ผมก็ไปวาดที่งานเลยนะ เป็นปลาฉลามชื่อ
"ฉลามปิ๊บ" ตอนแรกไม่ทราบว่าเขาจะเอามาใช้ถาวรด้วย ปรากฎว่าเขาเอามาใช้เป็นแบบถาวร ผมก็ภูมิใจนะ (ยิ้ม)


ค้นพบความเป็นตัวของตัวเอง

แต่ก่อนตอนยังไม่มีครอบครัวผมไฟแรงมาก แต่พอมีครอบครัวก็น้อยลงบ้าง แต่ผมก็ยังมีงานด้านศิลปะอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นนิทรรศการงานศิลปะร่วมกับอีกหลายท่าน ทำให้ผมยังไม่ทิ้งศิลปะเสียทีเดียว อย่างเช่นการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ก็เช่นกัน ที่ทุกปีจะมีการรวบรวมผลงานของอาจารย์มาแสดง

กับลูกชายทุกวันนี้น้องพิพชอบวาดภาพมาก ตอนเด็กๆ ผมก็จะถ่าย
ทอด ให้เขา ด้วยการวาดภาพใ้ห้เขาทายตั้งแต่เขายังพูดไม่ได้ อย่างผมวาดรูปรองเท้าเขาก็จะชี้ที่เท้า (ยิ้ม) น้องพิพจะมีพัฒนาการเร็วมาก เขาชอบอะไรเขาก็จะวาดอันนั้นเลย อย่างตอนนี้เขาชอบเทียนมาก เขาก็จะวาดรูปเทียนจุดไฟ ผมก็จะลงวันเดือนปีแล้วเก็บไว้ ก็ยังคิดจะจัดนิทรรศการให้เขานะ (ยิ้ม)

ผลงานส่วนใหญ่ของผมเป็นงาน Drawing Painting ถ้าให้ผมวาดภาพเกี่ยวกับครอบครัวผมก็อาจจะวาดออกมาเป็นการ์ตูนแบบภาพล้อนะ คงเป็น Fine Art ที่จะเน้นโทนสีเขียว เพราะที่บ้านเป็นสวน แล้วครอบครัวผมก็ใกล้ชิดกับต้นไม้มาโดยตลอด

ผมอยากทำงานปั้นมากนะ เพราะเป็นอะไรที่ไม่เคยทำ แต่ผมคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ ชิ้นแรกที่จะปั้นผมก็อยากปั้นคนเเบบเน้นกล้ามเนื้อ อาจะไม่มีผิวหนังแบบ Anatomy แต่คงต้องหาบริเวณที่บ้านลองทำดูก่อน (ฮา)


ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกรักงานศิลปะ

ผมเข้าใจพ่อแม่ที่อยากเน้นเรื่องอื่นๆ มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ภาษาศาสตร์ พวกวิชาที่สำคัญต่อการนำไปใช้ ในการบริหารหรือเป็นผู้นำในองค์กรต่างๆ ในอนาคต แต่ผมเชื่อว่า ศิลปะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ ดนตรี หรือแขนงอื่นๆ แม้แต่กีฬา จะช่วยเสริมให้เด็กมีสังคม มีกิจกรรม มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนอื่น แต่ต้องไม่ลืมวิชาหลักๆ ที่สำคัญใน 1 อาิทิตย์ที่เรียน

วิชาศิลปะเองก็มีส่วนช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เด็กๆ มีความมั่นใจและภูมิใจในตนเอง ทำให้เขามีเสน่ห์ (ฮา) ใครๆ ก็อยากให้ลูกเก่งทุกอย่าง แต่ถ้าต้องเลือกก็ต้องดูที่ความสนใจในตัวของเด็กด้วย อย่าเน้นไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป อย่างเรื่องเกมในอินเทอร์เน็ต ถ้ามากเกินพอดีก็จะทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ


ที่สำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ลูกอยู่ในสายตา และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย ครอบครัวจะได้อบอุ่น ที่สำคัญเด็กทุกคนมักทำตามคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้สอนก็ตาม

ครอบครัวจึงเป็นอีกหนึ่งแรง ที่จะช่วยสานให้ความฝันกลายเป็นจริงได้ด้วยมือคุณ

0 ความคิดเห็น: